(Concert ) Coldplay Live In Bangkok,Thailand 2017 พร้อมบอกเล่าความประทับใจแบบจัดเต็ม!

     
   Coldplay  สุดวงอัลเทอร์เนทีฟร็อค จากเกาะอังกฤษ ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1996 ประกอบไปด้วยสมาชิก 4 คน คือ Chris Martin (นักร้องนำ/เปียโน) , Jonny Buckland (กีตาร์) ,Guy Berryman (เบส) ,Will Champion (กลอง) พวกเขาเป็นวงดนตรีที่ผมรู้จักตั้งแต่สมัยมัธยม ช่วงนั้นพวกเขาเพิ่งวางจำหน่ายอัลบั้ม Viva La Vada or Death and All His Friends (ประมาณปี 2008) เป็นวัยที่ผมหัดฟังเพลงใหม่ๆ พูดง่ายๆ คือลองไปเรื่อย.. สิ่งที่ทำให้ผมเปิดใจฟังวงนี้ คือ การได้สัมผัสถึงความคิดสร้างสรรค์ และเฉดสีที่สวยงาม คละคลุ้งอยู่ในบทเพลงราวกับเวทมนตร์.. นับตั้งแต่นั้นก็ชื่นชอบพวกเขามาโดยตลอด ปัจจุบันพวกเขามีผลงานสตูดิโอ 7 อัลบั้ม และยังคงสร้างสรรค์เพลงใหม่ๆกันอย่างต่อเนื่อง 




     วันนี้พวกเขาได้เดินทางมาเล่น ที่เมืองไทยเป็นครั้งที่สอง ในชื่อทัวร์ว่า Coldplay A HEAD FULL OF DREAMS TOUR พร้อมศิลปินสาวรับเชิญ JESS KENT โดยงานจัดขึ้นที่ Rajamangala National Stadium ซึ่งมีแฟนเพลงทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก


   บรรยากาศโดยรอบงาน Coldplay Live In Bangkok,Thailand 2017 

     เมื่อมาถึงบริเวณหน้างาน ก็จะพบกับป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ ให้ผู้ที่มาชมคอนเสิร์ต Coldplay ได้มาแชะ-แชร์ check-in เป็นที่ระลึกกันก่อน


       หลังจากที่ถ่ายรูปบริเวณหน้างานเสร็จ ก็มาถึงโซนกิจกรรม จากสปอนเซอร์ต่างๆ ทั้ง BEC-TERO (ผู้จัดงาน) , Warner Music Thailand และอื่นๆเพียบ!!



 
   นอกจากนี้ยังมีจุดจำหน่ายสินค้า Official : T-Shirt , เสื้อฮู้ด , หมวก , กระเป๋า ,พวงกุญแจ , Poster และอื่นๆ ให้แฟนๆได้เลือกซื้อกันอีกด้วย




  - ทางเข้าพื้นที่จัดแสดง หลังจากที่เดินสัมผัสบรรยากาศโดยรอบกันไปแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะเข้าไปในโซนคอนเสิร์ตแล้วล่ะครับ จุดนี้ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจบัตรคอนเสิร์ต และสัมภาระ เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าชม 



 ใครที่มีสิ่งต้องห้าม อาทิ กล้อง DSLR , สัมภาระหนักๆ ก็ต้องนำไปฝากไว้ที่จุดรับฝากสิ่งของก่อนนะครับ แต่ถ้าเป็นอาวุธ  ยาเสพติด หรือสิ่งร้ายแรงทางกฏหมาย อันนี้ก็คงต้องโดนจับเข้าห้องกรงไปครับ  555+


     พอผ่านจุดตรวจเช็คมาแล้ว ก็ต้องไปตรวจบัตรคอนเสิร์ต และรับสายรัดข้อมืออีกทีนึง ก็เดินตามไปเรื่อยๆ เพื่อเข้าไปในโซน indoor stadium กันนะครับ


      เออ..ว่าแต่เราต้องไปประตูไหนละนี่ อ๋อ!! ไม่ต้องห่วง เพราะที่นี่เขามี แผนผังขนาดใหญ่  เอาไว้ให้ได้ตรวจเช็คประตูทางเข้าตามที่ระบุในบัตรกันด้วยครับ ไม่ต้องกล้วว่าจะเข้าผิด หรือสับสนแต่อย่างใด ก็เดินไปตามแผนที่นี้เลยครับ ของผมคือโซน A1 



    ในที่สุดก็เข้ามาในบริเวณพื้นที่จัดแสดงแล้ว ปริมาณคนมหาศาล โดยเฉพาะบนอัฒจรรย์คนเยอะมากๆ เวทีสวยงาม อลังการณ์มากๆครับ


  และแล้วศิลปินรับเชิญ Jess Kent ก็เริ่มบรรเลงให้แฟนๆชาวไทยได้อุ่นเครื่อง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่มีทักษะที่ดีเยี่ยม! โดยเฉพาะเสียงร้อง และความเซ็กซี่ ไฮไลท์เด็ด คือ การหยิบบทเพลง Killing in the Name ของ Rage Against The Machine มาเล่นให้แฟนๆได้ฟังด้วย


     ต่อมาก็ถึงคิวแสดงของ Headline กันแล้ว วงที่ทุกๆคนต่างรอคอย Coldplay เปิดตัวออกมาได้อย่างอลังการณ์ แฟนๆเพลงก็เริ่มกระโดดมันส์กันไปกับบทเพลงฮิตกันอย่างสนุกสนาน



   งานนี้พวกเขาก็นำเพลงฮิตมาเล่นให้แฟนๆชาวไทยแบบจัดเต็ม  โดยเฉพาะเพลงที่ผมชื่นชอบ อาทิ Yellow ,The Scientist , Fix You เพลงที่ทำเอาแฟนร้องตามกันลั่นสนามกีฬา "Lights will guide you home And ignite your bones And I will try to fix you Read more"  ,Viva La Vida , เพลงที่ผมประทับใจมากๆ คือเพลง Everglow ซึ่ง Chris Martin ร้องให้ในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเรา ซึ่งเป็นเพลงที่เศร้า..โดยพูดถึงเกี่ยวกับการที่เราสูญเสียใครสักคน..แล้วเขาคนๆนั้นคือคนที่มีความหมายกับเรา จนมาถึงวันที่เราต้องเดินต่อไป..โดยที่ไม่มีเขาอีกแล้ว ซึ่งสามารถถ่ายทอดออกมาเป็นอารมณ์เศร้าได้ดี ผู้เขียนหันไปเห็นแฟนเพลงชาวไทยแอบมีน้ำตาด้วย นอกจากนี้ยังมีเพลงอื่นๆอีกเพียบ! เช่น Always in My Head , In My Place Amazing Day , A Sky Full Stars , Don't Panic , Til Kingdom Come 

   
   หรือแม้แต่เพลงใหม่ล่าสุดอย่าง Something Just Like This "เป็นเพลงที่มีการใช้ภาษาโดดเด่น เป็นการเปรียบเปรยระหว่างมนุษย์ธรรมดาที่มีความใฝ่ฝันอยากจะมีพลังเหนือธรรมชาติ เหมือนซุปเปอร์ฮีโร่" งานนี้พวกเขาเล่นกันแบบเต็มที่จริงๆ รวมๆทั้งหมดก็ประมาณ 20 กว่าเพลง มันเป็นอะไรที่ประทับใจมากๆ บทเพลงของพวกเขาสามารถสะท้อนเข้าไปถึงในหัวใจของแฟนเพลงชาวไทย ตามที่ Chris Martin ได้กล่าวเอาไว้ "ถึงแม้ว่าผมจะพูดภาษาไทยไม่ได้ แต่หัวของผมนั้นพูดภาษาไทยได้เหมือนๆกับคุณ" ใช่แล้วล่ะครับ ผู้เขียนเชื่อว่าดนตรีเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงผู้คนจากทั่วโลกให้เป็นหนึ่งเดียวได้ ไม่ว่าคุณจะมีเชื้อชาติ หรือการใช้ภาษาโดยการเปล่งเสียงที่ต่างกัน แต่ดนตรีจะทำลายกำแพงเหล่านั้น ด้วยความรู้สึกที่เป็นหนึ่งเดียว เรารักในเสียงดนตรีเหมือนๆกัน ดนตรีคือสันติภาพ คือภาษาแห่งจิตวิญญาณที่เชื่องโยงเราเข้าด้วยกันได้อย่างไร้รอยต่อ เรารักกันได้ด้วยเสียงดนตรี ...


     บทเพลงที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และเฉดสีที่สวยงาม ด้วยบรรยากาศแห่งความสุข ราวกับหลุดมาอยู่ในช่วงเวลาแห่งเวทมนตร์ที่คละคลุ้งอยู่ในทุกๆบทเพลงของพวกเขา เป็นสิ่งที่ให้ผู้เขียนชื่นชอบบทเพลงของ Coldplay 

  

    Production ก็ยอดเยี่ยมมากๆ สมกับราคาค่าบัตร ทั้งแสง-สี-เสียง และลูกเล่นต่างๆ เช่น การยิงพลุไฟที่สวยงาม , การปล่อยแสงเลเซอร์ , motion graphic พอประกอบกับบทเพลงของศิลปินแล้วมันช่างลงตัวจริงๆ บางช่วงผมนี่ถึงกับหลับเพื่อสัมผัสกับบทเพลงของพวกเขาเลยล่ะครับ เป็นโชว์ที่ครบสมบูรณ์แบบ the Best มากๆ ท้ายที่สุดก็ขอขอบคุณ  Coldplay ที่มาเล่นให้พวกเราได้ดูครับ "Thank You for coming to Bangkok,Thailand , Hope to come back again in the future" ก็ขอให้พวกเขากลับมาที่นี่อีกครั้ง ไม่ว่าจะอีก 5ปี หรือ10ปี ผมก็จะรอ.. แล้วเจอกันใหม่


บทความโดย : นายพัดโบก วังแก้ว

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

(Concert) Guns N' Roses ตำนานร็อคยุค 80 กับโชว์ครั้งแรกที่เมืองไทย

(Concert) Sinsaenum กับการแสดงสุดมันส์ครั้งแรกในเมืองไทย !! นี่คือวงใหม่ Joey Jordison อดีตมือกลองแห่ง Slipknot

(Concert) Mr.Big สุดยอดตำนานร็อค เยือนเมืองไทย !!